การกำหนดบทบาทหน้าที่สำหรับผู้ที่สนใจ หางานตรัง รวมถึงหลักการทำงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่จะเข้ามาช่วยในการคัดสรรค์คนหางานที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่ากลุ่มตลาดแรงงานมีทิศทางหรือสิ่งที่มุ่งหวังเปลี่ยนไป ทำให้คุณภาพชีวิตในการทำงานและการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน การเพิ่มโอกาสในการพัฒนาศักยภาพในการทำงานเพื่อช่วยสร้างความสมดุลให้กับชีวิตการทำงานถือเป็นเรื่องสำคัญ จะเห็นได้ว่าแต่ละองค์กรมีการระบุตำแหน่งงานและหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน รวมถึงลักษณะของการทำงานและความรับผิดชอบในการทำงาน
ความมุ่งหวังของแต่ละองค์กรมีความแตกต่างกันไปตามยุคสมัย เพราะทุกวันนี้กลุ่มแรงงานและกลุ่มคนหางานมีทัศนคติและแนวความคิดในการทำงานที่เปลี่ยนไป บางคนไม่ได้มีความรู้ความสามารถแต่ต้องการทำงานกับบริษัทที่มั่นคงต้องการมีฐานเงินเดือนที่มาก ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างปัญหาให้กับองค์กรต่างๆ อย่างแท้จริง การกำหนดกรอบแนวความคิดในการพัฒนาทิศทางการทำงาน เป็นสิ่งที่แต่ละองค์กรอาจจะต้องทำการจัดฝึกอบรมพนักงานใหม่อีกครั้ง เพื่อให้เกิดการปรับตัวในการทำงานให้สอดคล้องกับพนักงานคนอื่นๆ สำหรับการทำงานจริงอาจจะต้องมีการวัดผลและประเมินผลการทำงานได้ เพื่อที่จะแจ้งให้กับพนักงานทราบว่าเค้าควรมีการแก้ไขหรือปรับปรุงส่วนใดบ้าง
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการวัดและประเมินผลพนักงานขององค์กรส่วนใหญ่ ดังนี้
- ประเมินผลจากการปฏิบัติงาน ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าไม่ว่าจะจังหวัดไหนก็ให้ความใส่ใจกับการหาคน ทำให้ปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์หางานจำนวนมากที่ให้บริการข้อมูลสำหรับผู้สมัครงาน หาตำแหน่งงานหรือองค์กรหาคนเข้าทำงาน ซึ่งเมื่อผู้สมัครงานผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานแล้ว ส่วนใหญ่เมื่อทำงานไปสักพักหัวหน้างานหรือฝ่ายที่มีความเกี่ยวข้องก็จะทำการประเมินผลการทำงาน ว่าสามารถปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้อีกหลายองค์กรจะมีแผนการดำเนินงานที่ระบุลงไปเลยว่าแต่ละปีจะมีการประเมินผลการทำงานของพนักงานทุกคน เพื่อสำหรับปรับเงินเดือนหรือให้โบนัสตามความเหมาะสม
- ประเมินผลจากรายละเอียด Job Description ปัจจุบันนี้หลายองค์กรมีการกำหนดแบบแผนการทำงานให้ในแต่ละวันพนักงานทำการเขียนรายละเอียด Job Description ในแต่ละวันว่าทำอะไรไปบ้าง เพื่อที่หัวหน้างานจะสามารถมองเห็นหรือตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ได้ และรวบรวมรายละเอียดการทำงานทั้งหมดของแต่ละคนมาสรุปและประเมินผลการทำงานของพนักงานแต่ละคนเพื่อสรุปให้ผู้บริหารทราบ
- ประเมินผลจากความใส่ใจในการทำงาน นอกจากการทำงานทั่วไปในแต่ละวันแล้ว ความใส่ใจในการทำงานพร้อมทั้งการลงรายละเอียดอย่างรอบคอบจะช่วยให้งานที่ทำไม่เกิดข้อผิดพลาด การที่คุณมีความใส่ใจในรายละเอียดของแต่ละงาน แน่นอนว่าหัวหน้างานหรือผู้บริหารสามารถมองเห็นถึงความตั้งใจของคุณแน่ บางคนมีความคิดที่ว่าทำงานดีไปก็ไม่มีคนเห็น แต่ตามหลักความเป็นจริงแล้วมีคนมองเห็นแน่นอนแต่อยู่ที่ว่าเค้าจะบอกคุณหรือไม่เท่านั้นเอง
- ประเมินผลจากความคิดสร้างสรรค์ การหาช่องทางหรือเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาจะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นมุมมองของการทำงานในแบบใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์ทำให้งานของคุณมีความแตกต่างอย่างโดดเด่นและอาจจะตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ การเป็นคนที่ไม่หยุดคิดจะช่วยสร้างประโยชน์ในการทำงานและการดำเนินชีวิตให้กับคุณได้ รวมถึงยังช่วยให้คุณนำพาองค์กรไปสู่จุดที่มีความแตกต่างเหนือคู่แข่งขันอีกด้วย
- ประเมินผลจากวันลาหยุด แน่นอนว่าไม่มีองค์กรไหนที่ชอบพนักงานที่ลางานบ่อย เพราะยิ่งถ้าพนักงานลางานบ่อยการทำงานหรือการประสานงานในการทำงานก็จะไม่มีความต่อเนื่องทำให้เกิดอุปสรรค์ต่อการทำงาน รวมถึงความล้าช้าจากการทำงานติดปัญหากับหลายๆ ฝ่าย ซึ่งบางองค์กรมีการกำหนดแนวทางการป้องกันการลางานจำนวนวันเยอะที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เกิดความเหมาะสมของแต่ละองค์กรมากที่สุด
- ประเมินผลจากมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน การมีทัศนคติที่ดีจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน รวมถึงกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน การแชร์ประสบการณ์พร้อมแบ่งปันความรู้ความสามารถในการทำงานจะช่วยให้เกิดผลลัพท์ในการทำงานที่มีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในองค์กรจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถวางรูปแบบและทิศทางการทำงานได้อย่างลงตัวมากขึ้น
นอกจากการประเมินผลโดยหลักเกณฑ์ทั่วไปแล้วยังอาจรวมถึงความใส่ใจในการทำงาน พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานเพิ่มให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับการประเมินผลการทำงานของพนักงานแต่ละคนนั้นจะต้องผ่านการตรวจสอบจากหลายฝ่ายเพื่อหาข้อสรุปความจริง ว่าเป็นไปตามที่ได้ทำการประเมินผลหรือไม่